ความรู้เกี่ยวกับ "การจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)"





เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
จัดฟัน คืออะไร ?
การจัดฟัน (Orthodontic treatment) คือ การรักษาทางทันตกรรม เพื่อแก้ไขสภาวะการสบฟันที่ผิดปกติ (Malocclusion) โดยใช้หลักการ ของแรงทางฟิสิกส์ (Physics) ร่วมกับหลักการกลศาสตร์ชีววิทยา (Biomechanical) ในการ “เคลื่อนฟัน” จากตำแหน่งที่ผิดปกติไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อฟันและอวัยวะรอบๆฟัน ซึ่งการจัดฟันนั้น มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ เพื่อให้มีความสวยงาม (Esthetics), เพื่อให้มีการใช้งานที่ดี (Function) และเพื่อให้มีความมั่นคงในการสบฟัน (Stability)
จัดฟันมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร ?
การจัดฟัน แบ่งออกเป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
-
6. จัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
(Removable appliances)
จัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก) คืออะไร ?
การจัดฟันแบบถอดได้ในเด็ก (Orthodontic removable appliance) เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันชนิดที่ถอดเข้า-ออกได้ ในเด็กที่ยังมีฟันน้ำนม หรือฟันชุดผสมอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักๆ 2 ประการ ได้แก่
- เป็นการรักษา เพื่อลดความรุนแรงของความผิดปกติของการสบฟันเบื้องต้น ทำให้การรักษาในอนาคตง่ายขึ้น (Introductory orthodontic treatment)
- เป็นการรักษาเพื่อกระตุ้นหรือยับยั้ง การเจริญเติบโตของขากรรไกรในเด็ก (Growth modification) ที่มีสภาวะความผิดปกติของการสบฟันร่วมกับความผิดปกติของขากรรไกร ซึ่งในอนาคตอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มีโอกาสที่จะต้องรักษาด้วยการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
ตัวอย่างเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
- Active plate : เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ ที่ใช้เคลื่อนฟันง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เช่น ฟันห่าง, ฟันซ้อนเก, ฟันสบคร่อม เป็นต้น ประกอบไปด้วยเพลท (Acrylic), Spring, ตะขอ ต่างๆ
- Twin blocks : เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่ใช้กระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง ในเคสที่มีความผิดปกติของขากรรไกรล่างที่เล็กกว่าปกติ
- Headgear : เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน ในเคสที่มีความผิดปกติของขากรรไกรบนที่ยื่นกว่าปกติ
- Facemask : เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่ใช้กระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน ในเคสที่มีความผิดปกติของขากรรไกรบนที่เล็กกว่าปกติ
ข้อดีของการจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
- ลดความรุนแรงของความผิดปกติของการสบฟันเบื้องต้น ทำให้การรักษาในอนาคตง่ายขึ้น
- เป็นการรักษา เพื่อแก้ไขความผิดปกติของสบฟันและความผิดปกติของโครงสร้างขากรรไกรเบื้องต้น
- มีการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าและการสบฟันไปในทางที่ดีขึ้น
- ลดโอกาสผ่าตัดขากรรไกรในอนาคต
ข้อเสียของการจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
- อาจพบข้อจำกัดในการควบคุมการเคลื่อนฟันและการแก้ไขปัญหาการสับฟันที่ซับซ้อน
- ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้เข้ารับการรักษา 100% เนื่องจากเป็นเครื่องมือแบบถอดได้ ที่ต้องใส่ด้วยตนเอง
- เนื่องจากเป็นเครื่องมือแบบถอดได้ ทำให้มีโอกาสแตกเสียหายหรือสูญหายได้
- อาจรู้สึกรำคาญหรือระคายเคืองได้เล็กน้อย ทำให้การพูดออกเสียงไม่ชัดในช่วงแรกที่ร่างกายยังปรับตัวไม่ได้
กรณีใด ที่จำเป็นต้องจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
- กรณีที่มีความผิดปกติของการสบฟันเล็กน้อย ที่ควรต้องรับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น ฟันสบคร่อม, การสูญเสียฟันแท้ก่อนเวลาอันควร, ฟันซ้อนเกรุนแรง เป็นต้น
- กรณีที่มีความผิดปกติของการสบฟันร่วมกับความผิดปกติของขากรรไกร (Malocclusion with jaw deformity) ในเด็ก เช่น ยิ้มเห็นเหงือก, คางยื่นหรือหลุบ, ขากรรไกรบนยื่นหรือหลุบ
รายละเอียดขั้นตอนในการจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
นัดปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน
ในครั้งแรก ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการซักประวัติ ตรวจนอกช่องปาก ได้แก่ วิเคราะห์รูปหน้า, วิเคราะห์การยิ้ม และตรวจการสบฟันอย่างละเอียด เพื่อวินิจฉัยปัญหา และวางแผนการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาจะได้ทราบแผนการรักษาเบื้องต้น โดยทันตแพทย์จัดฟันที่ปรึกษาจะเป็นทันตแพทย์ประจำตัว ที่จะทำการรักษาไปจนเสร็จสิ้นการรักษา ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันคลินิกทันตกรรมสไมล์ลอฟท์ทำประวัติก่อนการรักษา
กรณีถ้าตกลงจัดฟัน ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำแบบจำลองฟันก่อนการรักษา บันทึกถ่ายภาพใบหน้าและภายในช่องปาก วิเคราะห์ วินิจฉัยวางแผนการรักษา และ ทำเอกสารเฉพาะในเบื้องต้น รวมทั้งถ่ายภาพรังสีทั้งปาก (Panoramic film) และ ภาพรังสีใบหน้าด้านข้าง (Lateral cephalometric film)ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน
เป็นขั้นตอนในการเตรียมสภาพช่องปากทั่วไปให้เรียบร้อยและอยู่ในสภาพที่ดีตามแผนการรักษาของทันตแพทย์จัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน, การขูดหินปูน, การผ่าฟันคุด, การรักษารากฟัน, การถอนฟัน เพื่อการจัดฟัน เป็นต้นพิมพ์ปากเพื่อทำเครื่องมือจัดฟัน
เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากเพื่อส่งทำเครื่องมือจัดฟันนัดรับเครื่องมือ
ทันตแพทย์จัดฟันจะนัดรับเครื่องมือจัดฟัน หลังพิมพ์ปาก 1-2 สัปดาห์ และจะทำการสอนอธิบายวิธีการถอดใส่อย่างละเอียด ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยและร่วมมือในการใส่เครื่องมืออย่างเคร่งครัด กรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่ใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ จะทำให้ระยะเวลาในการรักษายาวนานออกไปและไม่เป็นไปตามแผนการรักษาปรับเครื่องมือจัดฟัน
ทันตแพทย์จัดฟันจะนัดปรับเครื่องมือจัดฟันทุกเดือนตามแผนการรักษา โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีทำรีเทนเนอร์หลังจัดฟัน
เมื่อทำการจัดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะพิจารณาพิมพ์ปากเพื่อทำ เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ (Retainers) ในบางเคส ผู้เข้ารับการรักษาต้องทำการใส่รีเทนเนอร์อย่างมีวินัยตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำขั้นตอนการเคลียร์ช่องปากหลังจัดฟัน
เป็นขั้นตอนในการตรวจดูแลสภาพช่องปากทั่วไปให้เรียบร้อยและอยู่ในสภาพที่ดีหลังการจัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน, การขูดหินปูน เป็นต้นนัดเพื่อตรวจเช็ครีเทนเนอร์และตรวจสุขภาพฟันประจำปี
โดยทั่วไปหลังถอดเครื่องมือจัดฟันแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะนัดเพื่อตรวจติดตามผลการรักษาและเช็ครีเทนเนอร์ ในช่วงระยะเวลาหลังการรักษา 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี พร้อมกับการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี
ราคาจัดฟันแบบถอดได้ (ในเด็ก)
ราคาเครื่องมือ (ไม่รวมราคาปรับเครื่องมือ)
- Active plate ราคารวม 6,000 บาท
- Active plate with screw ราคารวม 7,000 บาท
- Twin blocks ราคารวม 8,000 บาท
- Head gear ราคารวม 8,000 บาท
- Face mask ราคารวม 12,000 บาท
ขั้นตอนการแบ่งชำระ
- ปรึกษาจัดฟันครั้งแรก : ไม่มีค่าใช้จ่าย
- กรณีถ้าตกลงจัดฟัน จะมีค่าใช้จ่ายตามนี้
ค่าใช้จ่ายครั้งแรก : พิมพ์ปาก 1,000 + เอ็กซเรย์ 1,000 = 2,000 บาท - หลังจากนั้น นัดเคลียร์ช่องปาก (ราคาขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของแต่ละบุคคล)
- พิมพ์ปากเพื่อทำเครื่องมือ : ชำระ 60% ของราคาเครื่องมือ
- นัดรับเครื่องมือ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ : ชำระ 40% ของราคาเครื่องมือ
- ปรับเครื่องมือ ทุกเดือน (ชำระครั้งละ 800 บาท) จนเสร็จสิ้นการรักษา
- รีเทนเนอร์หลังจัดฟัน ราคา 2,999 บาท
(ลดจากปกติ ราคา 5,000)