บทความ > ทันตกรรมจัดฟัน

ความรู้เกี่ยวกับ "การจัดฟันแบบใส"

การจัดฟัน (Orthodontic treatment) คือ การรักษาทางทันตกรรม เพื่อแก้ไขสภาวะการสบฟันที่ผิดปกติ (Malocclusion) โดยใช้หลักการ ของแรงทางฟิสิกส์ (Physics) ร่วมกับหลักการกลศาสตร์ชีววิทยา (Biomechanical) ในการ “เคลื่อนฟัน” จากตำแหน่งที่ผิดปกติไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อฟันและอวัยวะรอบๆฟัน ซึ่งการจัดฟันนั้น มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ เพื่อให้มีความสวยงาม (Esthetics), เพื่อให้มีการใช้งานที่ดี (Function) และเพื่อให้มีความมั่นคงในการสบฟัน (Stability)

จัดฟันมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร ?

การจัดฟัน แบ่งออกเป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

จัดฟันแบบใส คืออะไร ?

invisalign

การจัดฟันใส เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบถอดได้ ซึ่งทำจากชิ้นงานพลาสติกใสคุณภาพดี โดยหลักการคือ พลาสติกจะถูกเซ็ตมาล่วงหน้าเพื่อให้ค่อยๆเกิดการเคลื่อนฟันตามแผนการรักษา เมื่อทำการเปลี่ยนชิ้นงานแต่ละครั้ง ฟันก็จะค่อยๆขยับและเปลี่ยนตำแหน่งทีละน้อย (โดยเฉลี่ยครั้งละไม่เกิน 1 มิลลิเมตร)

ดังนั้นจำนวนชิ้นงานและระยะเวลาในการรักษาจึงขึ้นกับ ปริมาณการเคลื่อนฟันและความซับซ้อนของเคส โดยยิ่งต้องมีการเคลื่อนฟันมากเท่าไหร่ จำนวนชิ้นงานที่ใช้ในการรักษาและระยะเวลาในการรักษาก็จะมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ ความมีวินัยและความร่วมมือในการใส่เครื่องมืออย่างเคร่งครัดก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยปกติจะเปลี่ยนเครื่องมือแต่ละชุดทุก 2 สัปดาห์ (แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส) กรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่ใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ จะทำให้ระยะเวลาในการรักษายาวนานออกไปและไม่เป็นไปตามแผนการรักษา

การจัดฟันใส แบ่งออกเป็น

  1. การจัดฟันแบบใส “Clear aligner”
              เป็นการจัดฟันแบบใส ที่ทำโดยแลปในประเทศไทย ทำจากพลาสติกที่สร้างจากแบบจำลองฟันที่ถูกเซ็ตมาล่วงหน้าตามแผนการรักษา เพื่อให้เกิดการเคลื่อนฟัน (โดยเฉลี่ยครั้งละไม่เกิน 1 มิลลิเมตร) ดังนั้นจึงเหมาะสมในกรณีที่ต้องการเคลื่อนฟันน้อยมากๆ เพราะต้องทำการพิมพ์ปากทุกครั้งเพื่อผลิตชิ้นงานในการเคลื่อนฟันแต่ละครั้ง
  2. การจัดฟันแบบใส “Invisalign”
              เป็นนวัตกรรมจัดฟันใสจากอเมริกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและได้รับการยอมรับทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันได้อย่างดีเยี่ยม ตัวชิ้นงานจะถูกส่งไปผลิตที่ประเทศอเมริกา โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการผลิตทั้งหมด
              การจัดฟันแบบใส “Invisalign” สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ ตามจำนวนชิ้นงานและระยะเวลาในการรักษา ซึ่งขึ้นกับ ปริมาณการเคลื่อนฟันและความซับซ้อนของเคส ได้แก่

    (1)  Invisalign Express : จำนวน ไม่เกิน 7 ชุด 
    (2) Invisalign Lite : จำนวน ไม่เกิน 14 ชุด 
    (3) Invisalign Moderate : จำนวน ไม่เกิน 21 ชุด 
    (4) Invisalign Comprehensive : ไม่จำกัดจำนวนชุด

    นอกจากนี้ยังมีการจัดฟันใสแบบ Essential by Invisalign ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แตกต่างจาก Invisalign ปกติ คือพลาสติกที่ใช้จะเป็นคนละแบบกัน (EX30) โดยจะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า ราคาย่อมเยาว์กว่า ซึ่งในแพ็คเกจจะใช้จำนวนชุดในการรักษาไม่เกิน 20 ชุด

  3. การจัดฟันแบบใส “Clear Correct”
              เป็นนวัตกรรมจัดฟันใสจากอเมริกา (รัฐเท็กซัส) และได้รับการยอมรับทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน ตัวชิ้นงานจะถูกส่งไปผลิตที่ประเทศอเมริกา โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการผลิตทั้งหมด
              การจัดฟันแบบใส “Clear Correct” สามารถแบ่งได้เป็น 6 ประเภทหลักๆ ตามจำนวนชิ้นงานและระยะเวลาในการรักษา ซึ่งขึ้นกับ ปริมาณการเคลื่อนฟันและความซับซ้อนของเคส ได้แก่
    (1)  Flex : สามารถระบุจำนวน ได้ตามต้องการ 
    (2) Mini : จำนวน ไม่เกิน 12 ชุด 
    (3) One : จำนวน ไม่เกิน 24 ชุด 
    (4) Two : จำนวน ไม่เกิน 36 ชุด 
    (5) Three : จำนวน ไม่เกิน 72 ชุด 
    (6) Unlimited : ไม่จำกัดจำนวนชุด

ส่วนประกอบของ เครื่องมือจัดฟันแบบใส

จัดฟันใส
  • ชิ้นงานพลาสติก (Plastic clear aligner)
              เป็นส่วนประกอบหลักที่สำคัญของการจัดฟันระบบนี้ โดยเป็นชิ้นงานทำจากวัสดุพลาสติกคุณภาพดี ที่มีความแข็งแรง สามารถถอดเข้าออกได้ วิธีการใช้งานคือ ผู้รับการรักษาจะสวมทับชิ้นงานนี้เข้าไปที่ฟัน โดยพลาสติกจะถูกเซ็ตมาล่วงหน้าเพื่อให้ค่อยๆเกิดการเคลื่อนฟันตามแผนการรักษา เมื่อทำการเปลี่ยนชิ้นงานแต่ละครั้ง ฟันก็จะค่อยๆขยับและเปลี่ยนตำแหน่งทีละน้อย (โดยเฉลี่ยครั้งละไม่เกิน 1 มิลลิเมตร)
  • Attachment  
              Attachment หรือ ปุ่มที่ใช้ควบคุมทิศทางการเคลื่อนฟัน เป็นส่วนประกอบที่ทำจากวัสดุอุดฟัน มีหน้าที่ควบคุมทิศทางการเคลื่อนฟันระหว่างการจัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการติดปุ่ม attachment ไปที่ผิวฟันตามแผนการรักษา ก่อนการใส่ชิ้นงานครั้งแรก (แตกต่างกันไปในแต่ละเคส)
  • อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
              นอกจากอุปกรณ์หลักแล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในการจัดฟันแบบใส (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส) เช่น ยางดึงฟัน (Elastics), Chewie (อุปกรณ์สำหรับกัดให้ชิ้นงานแนบสนิทไปกับผิวฟัน), Button เป็นต้น

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส

ข้อดีจัดฟันใส
  • มองแทบไม่เห็น เหมือนไม่ได้จัดฟันอยู่
              เนื่องจากชิ้นงานที่ใส่ เป็นแบบใส ทำให้มองแทบไม่เห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟัน เช่น ผู้ที่ต้องออกงานสังคมเป็นประจำ, ผู้ที่มีอาชีพที่ห้ามมีเครื่องมือจัดฟัน เช่น นักร้อง นักแสดง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เป็นต้น
  • ถอดเข้า-ออกได้ด้วยตัวเอง          
              เครื่องมือจัดฟันแบบใส เป็นเครื่องมือที่สามารถถอดเข้าออกได้ ไม่ใช่เครื่องมือติดแน่น สามารถถอดได้ในยามจำเป็น หรือขณะรับประทานอาหาร ทำให้การใช้ชีวิตประจำวัน หรือการออกงานสังคมสะดวกสบายขึ้น
  • รำคาญและระคายเคืองน้อยกว่า
              เนื่องจากการจัดฟันแบบติดแน่นอื่นๆ อาจพบปัญหาการระคายเคืองของลวด หรืออุปกรณ์ในช่องปากได้ ซึ่งปัญหานี้จะหมดไป สำหรับการจัดฟันแบบใส เพราะชิ้นงาน ทำจากเนื้อพลาสติกอย่างดี ที่มีขอบและพื้นผิวที่เรียบ ลดการระคายเคืองและแผลในช่องปาก
  • ดูแลทำความสะอาดช่องปากง่ายกว่า
              เครื่องมือจัดฟันแบบใส เป็นเครื่องมือที่สามารถถอดเข้าออกได้ สามารถถอดได้ในขณะรับประทานอาหารและในขณะแปรงฟัน ไม่มีเศษอาหารติดตามอุปกรณ์แบบเครื่องมือติดแน่น ทำให้การดูแลทำความสะอาดสุขภาพช่องปากเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
  • ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์ทุกเดือน
              เนื่องจากการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องทำการเปลี่ยนชิ้นงานด้วยตนเอง ทำให้ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อปรับเครื่องมือทุกเดือน อย่างไรก็ตามทันตแพทย์จัดฟันจะนัดติดตามผลการรักษาทุก 2-3 เดือน

ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

  • อาจพบข้อกำจัดในการควบคุมการเคลื่อนฟันและการแก้ไขปัญหาการสับฟันที่ซับซ้อน
  • ต้องอาศัยความร่วมมือของผู้เข้ารับการรักษา 100% เนื่องจากเป็นเครื่องมือแบบถอดได้ ที่ต้องใส่ด้วยตนเอง
  • เนื่องจากเป็นเครื่องมือแบบถอดได้ ทำให้มีโอกาสแตกเสียหายหรือสูญหายได้
  • อาจรู้สึกรำคาญหรือระคายเคืองได้เล็กน้อย ทำให้การพูดออกเสียงไม่ชัดในช่วงแรกที่ร่างกายยังปรับตัวไม่ได้

กรณีใด ที่จำเป็นต้องจัดฟันแบบใส ?

  • กรณีที่มีความผิดปกติของการสบฟัน (Malocclusion) ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงซับซ้อน
  • การจัดฟันร่วมกับทันตกรรมสาขาอื่นๆ เช่น การเติมฟัน, การเปิดช่องสำหรับใส่ฟันปลอม, การเปิดช่องสำหรับปักรากเทียม
  • การเรียงตัวของฟันผิดปกติ เช่น ฟันซ้อนเก, ฟันบิด, ฟันหมุน (Crowding)
  • กรณีที่มีความผิดปกติของการสบฟัน (Malocclusion) ประเภทอื่นๆ เช่น ฟันห่าง (Spacing), ฟันยื่น (Protrusion), ฟันงุ้ม (Retrusion), ฟันหน้าล่างครอบฟันบน (Crossbite), ฟันสบเปิด (Openbite), ฟันสบลึก (Deepbite), ฟันสบเบี้ยว (Midline deviation), ฟันสบเอียง (Canting)

รายละเอียดขั้นตอนในการจัดฟันแบบใส

รายละเอียดขั้นตอนในการจัดฟันแบบใส “Clear aligner”

  1. นัดปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน
              ในครั้งแรก ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการซักประวัติ ตรวจนอกช่องปาก ได้แก่ วิเคราะห์รูปหน้า, วิเคราะห์การยิ้ม และตรวจการสบฟันอย่างละเอียด เพื่อวินิจฉัยปัญหา และวางแผนการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาจะได้ทราบแผนการรักษาเบื้องต้น โดยทันตแพทย์จัดฟันที่ปรึกษาจะเป็นทันตแพทย์ประจำตัว ที่จะทำการรักษาไปจนเสร็จสิ้นการรักษา ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันคลินิกทันตกรรมสไมล์ลอฟท์

  2. ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน
              เป็นขั้นตอนในการเตรียมสภาพช่องปากทั่วไปให้เรียบร้อยและอยู่ในสภาพที่ดีตามแผนการรักษาของทันตแพทย์จัดฟันก่อนเริ่มการจัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน, การขูดหินปูน, การผ่าฟันคุด, การรักษารากฟัน, การถอนฟันเพื่อการจัดฟัน เป็นต้น

  3. พิมพ์ปากเพื่อทำชิ้นงาน Clear aligner
              เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากเพื่อส่งทำเครื่องมือ Clear aligner

  4. รับเครื่องมือ Clear aligner
              ทันตแพทย์จัดฟันจะนัดรับเครื่องมือหลังพิมพ์ปาก 1-2 สัปดาห์ และจะทำการสอนอธิบายวิธีการถอดใส่ ในบางกรณีอาจต้องมีการตะไบฟันร่วมด้วย (Stripping) เพื่อหาพื้นที่สำหรับการเรียงฟัน ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยและร่วมมือในการใส่เครื่องมืออย่างเคร่งครัด โดยปกติจะเปลี่ยนเครื่องมือแต่ละชุดทุก 2 สัปดาห์ (แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส) กรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่ใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ จะทำให้ระยะเวลาในการรักษายาวนานออกไปและไม่เป็นไปตามแผนการรักษา

  5. ทำรีเทนเนอร์หลังจัดฟัน
              เมื่อทำการจัดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำ เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ (Retainers) ผู้เข้ารับการรักษาต้องทำการใส่รีเทนเนอร์อย่างมีวินัยตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำ โดยทั่วไปจะต้องใส่ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นระยะเวลา 1 ปีแรก หลังจากนั้นจึงค่อยๆลดเวลาการใส่ลงจนเหลือแต่ตอนกลางคืน

  6. นัดเพื่อตรวจเช็ครีเทนเนอร์และตรวจสุขภาพฟันประจำปี
              โดยทั่วไปทันตแพทย์จัดฟันจะนัดเพื่อตรวจติดตามผลการรักษาและเช็ครีเทนเนอร์ ในช่วงระยะเวลาหลังการรักษา 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี พร้อมกับการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี 

รายละเอียดขั้นตอนในการจัดฟันแบบใส “Invisalign” และ  “Clear Correct”

  1. นัดปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน
              ในครั้งแรก ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการซักประวัติ ตรวจนอกช่องปาก ได้แก่ วิเคราะห์รูปหน้า, วิเคราะห์การยิ้ม และตรวจการสบฟันอย่างละเอียด เพื่อวินิจฉัยปัญหา และวางแผนการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาจะได้ทราบแผนการรักษาเบื้องต้น สามารถที่จะตัดสินใจเลือกแผนการรักษาและชนิดของเครื่องมือจัดฟันได้ โดยทันตแพทย์จัดฟันที่ปรึกษาจะเป็นทันตแพทย์ประจำตัว ที่จะทำการรักษาไปจนเสร็จสิ้นการรักษา
  2. ทำประวัติก่อนการรักษา
              กรณีถ้าตกลงจัดฟัน ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำแบบจำลองฟันก่อนการรักษา บันทึกถ่ายภาพใบหน้าและภายในช่องปาก วิเคราะห์ วินิจฉัยวางแผนการรักษา และ ทำเอกสารเฉพาะในเบื้องต้น รวมทั้งถ่ายภาพรังสีทั้งปาก (Panoramic film) และ ภาพรังสีใบหน้าด้านข้าง (Lateral cephalometric film)
  3. ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน
              เป็นขั้นตอนในการเตรียมสภาพช่องปากทั่วไปให้เรียบร้อยและอยู่ในสภาพที่ดีตามแผนการรักษาของทันตแพทย์จัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน, การขูดหินปูน, การผ่าฟันคุด, การรักษารากฟัน, การถอนฟันเพื่อการจัดฟัน เป็นต้น
  4. พิมพ์ปากเพื่อทำชิ้นงาน Invisalign หรือ แสกนฟันเพื่อทำชิ้นงาน Clear Correct
              เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากละเอียดด้วยซิลิโคนเพื่อส่งทำชิ้นงาน Invisalign หรือ แสกนฟันเพื่อทำชิ้นงาน Clear Correct ที่ประเทศอเมริกา
  5. การดูแผนการรักษา 3 มิติ (Clincheck หรือ Clearpilot)
              หลังจากนั้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทันตแพทย์จัดฟันจะนัดผู้เข้ารับการรักษาดูแผนการรักษา 3 มิติ, ตำแหน่ง Attachment (ปุ่มที่ใช้ควบคุมทิศทางการเคลื่อนฟัน ทำจากวัสดุอุดฟัน), แผนการตะไบฟัน (Stripping) จากโปรแกรม Clincheck ของ Invisalign หรือ Clearpilot ของ Clear Correct ในคอมพิวเตอร์ โดยจะแสดงภาพ Animation ของฟันตั้งแต่ก่อนรักษาจนเสร็จสิ้นการรักษาทุกขั้นตอนโดยละเอียด เมื่อผู้เข้ารับการรักษาตกลงตามแผนการรักษา ทางแลปที่อเมริกาก็จะเริ่มทำการผลิตชิ้นงานตามแผนการรักษาในโปรแกรม
  6. นัดรับชิ้นงานครั้งแรกและติด Attachment
            ทันตแพทย์จัดฟันจะนัดรับเครื่องมือหลังดูแผนการรักษา 3 มิติ 2-3 สัปดาห์ ในขั้นตอนนี้จะมีการติด Attachment ที่ผิวฟัน (ตามแผนการรักษา) และจะทำการสอนอธิบายวิธีการถอดใส่ ในบางกรณีอาจต้องมีการตะไบฟันร่วมด้วย (Stripping) เพื่อหาพื้นที่สำหรับการเรียงฟัน ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยและร่วมมือในการใส่เครื่องมืออย่างเคร่งครัด โดยปกติจะเปลี่ยนเครื่องมือแต่ละชุดทุก 2 สัปดาห์ (แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคส) กรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่ใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์แนะนำ จะทำให้ระยะเวลาในการรักษายาวนานออกไปและไม่เป็นไปตาม
  7. นัดรับชิ้นงานครั้งต่อๆไป
             เนื่องจากการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องทำการเปลี่ยนชิ้นงานด้วยตนเอง ทำให้ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อปรับเครื่องมือทุกเดือน อย่างไรก็ตามทันตแพทย์จัดฟันอาจจะค่อยๆให้ชิ้นงานไปบางส่วน และจะนัดติดตามผลการรักษาทุก 2-3 เดือนเพื่อรับชิ้นงานชุดต่อๆไป ในบางกรณีอาจต้องมีการตะไบฟันร่วมด้วย (Stripping) เพื่อหาพื้นที่สำหรับการเรียงฟัน (ตามแผนการรักษา)
  8. ทำรีเทนเนอร์หลังจัดฟัน
            เมื่อทำการจัดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำ เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ (Retainers) ผู้เข้ารับการรักษาต้องทำการใส่รีเทนเนอร์อย่างมีวินัยตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำ โดยทั่วไปจะต้องใส่ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นระยะเวลา 1 ปีแรก หลังจากนั้นจึงค่อยๆลดเวลาการใส่ลงจนเหลือแต่ตอนกลางคืน
  9. ขั้นตอนการเคลียร์ช่องปากหลังจัดฟัน
              เป็นขั้นตอนในการตรวจดูแลสภาพช่องปากทั่วไปให้เรียบร้อยและอยู่ในสภาพที่ดีหลังการจัดฟัน ได้แก่ การอุดฟัน, การขูดหินปูน, การทำครอบฟัน, การใส่ฟันปลอมแบบถอดได้, การทำฟันปลอมแบบติดแน่น และ ปักรากเทียม เป็นต้น
  10. นัดเพื่อตรวจเช็ครีเทนเนอร์และตรวจสุขภาพฟันประจำปี
              โดยทั่วไปทันตแพทย์จัดฟันจะนัดเพื่อตรวจติดตามผลการรักษาและเช็ครีเทนเนอร์ ในช่วงระยะเวลาหลังการรักษา 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี พร้อมกับการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี

ราคาจัดฟันแบบใส

จัดฟันใสด้วย Clear Aligner

  • ราคา 14,500 บาท (3 ชุด/เซ็ต) 

จัดฟันใส Invisalign

  • Essential by Invisalign (ไม่เกิน 20 ชุด) ราคา 22,250 x 4 งวด = 98,000
  • Express (ไม่เกิน 7 ชุด) ราคา 18,750 x 4 งวด = 75,000
  • Lite (ไม่เกิน 14 ชุด) ราคา 30,000 x 4 งวด = 120,000
  • Moderate (ไม่เกิน 26 ชุด) ราคา 39,750 x 4 งวด = 159,000
  • Comprehensive (ไม่จำกัดจำนวนชุด) ราคา 44,250 x 4 งวด = 177,000

* กรณีชำระเงินสด Invisalign จะได้รับส่วนลด 9,000 บาท

จัดฟันใส Clear Correct

  • Flex : 3 sets (ไม่เกิน 3 ชุด) ราคา 8,750 x 4 งวด = 35,000
  • Flex : 6 sets (ไม่เกิน 6 ชุด) ราคา 13,750 x 4 งวด = 55,000
  • Mini (ไม่เกิน 12 ชุด) ราคา 18,750 x 4 งวด = 75,000
  • One (ไม่เกิน 24 ชุด) ราคา 23,750 x 4 งวด = 95,000
  • Two (ไม่เกิน 36 ชุด) ราคา 28,750 x 4 งวด = 115,000
  • Three (ไม่เกิน 72 ชุด) ราคา 33,750 x 4 งวด = 135,000
  • Unlimited (ไม่จำกัดจำนวนชุด) ราคา 38,750 x 4 งวด = 155,000

* กรณีชำระเงินสด Clear Correct จะได้รับส่วนลด 6,000 บาท

ขั้นตอนการแบ่งชำระ “Clear aligner”

  • ปรึกษาจัดฟันครั้งแรก : ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • พิมพ์ปากเพื่อทำเครื่องมือ ชำระ 10,000 บาท
  • นัดรับชิ้นงาน 1,500 บาท x 3 ชุด = 4,500 บาท
  • รีเทนเนอร์หลังจัดฟัน ราคา 2,999 บาท
    (ลดจากปกติ ราคา 5,000)

ขั้นตอนการแบ่งชำระ “Invisalign” (แบ่งชำระ 4 งวด)

  • ปรึกษาจัดฟันครั้งแรก : ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • * ชำระงวดที่ 1 : กรณีตกลงจัดฟัน ทำประวัติ, พิมพ์ปาก, เอ็กซเรย์ 
  • หลังจากนั้น นัดเคลียร์ช่องปาก (ราคาขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของแต่ละบุคคล)
  • * ชำระงวดที่ 2 : เมื่อพิมพ์ปากเพื่อทำชิ้นงาน 
  • * ชำระงวดที่ 3 : เมื่อดูแผน 3 มิติ (Clincheck) 
  • * ชำระงวดที่ 4 : เมื่อนัดรับชิ้นงานครั้งแรก 
  • ฟรี รีเทนเนอร์ 
    (กรณีเคลียร์ช่องปากกับทางคลินิกและไม่ขาดนัดเกิน 3 เดือน)

ขั้นตอนการแบ่งชำระ “Clear Correct” (แบ่งชำระ 4 งวด)

  • ปรึกษาจัดฟันครั้งแรก : ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • * ชำระงวดที่ 1 : กรณีตกลงจัดฟัน ทำประวัติ, พิมพ์ปาก, เอ็กซเรย์ 
  • หลังจากนั้น นัดเคลียร์ช่องปาก (ราคาขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของแต่ละบุคคล)
  • * ชำระงวดที่ 2 : เมื่อแสกนฟันเพื่อทำชิ้นงาน 
  • * ชำระงวดที่ 3 : เมื่อดูแผน 3 มิติ (Clearpilot)
  • * ชำระงวดที่ 4 : เมื่อนัดรับชิ้นงานครั้งแรก 
  • ฟรี รีเทนเนอร์ 
    (กรณีเคลียร์ช่องปากกับทางคลินิกและไม่ขาดนัดเกิน 3 เดือน)

คลิปตัวอย่างการจัดฟันแบบใส Invisalign

images